วันศุกร์ที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2554

เทคนิคการอ่านจับใจความอย่างรวดเร็ว

       เวลาที่เราเข้าห้องสอบภาษาอังกฤษ แล้วต้องอ่านบทความยาวๆ สิ่งสำคัญในขณะนั้นก็คือต้องอ่านบทความให้ทัน ให้ได้ใจความในเวลาอันรวดเร็ว (เพื่อให้ทันกับเวลาในการสอบ) เพราะด้วยเนื้อหาที่มากและการอ่านที่ช้า ทำให้เราต้องเสียเวลาและอ่านได้ไม่หมด จนบางทีอาจเสียคะแนนไป นอกจากนี้ยังต้องทำข้อสอบส่วนอื่นๆ ด้วย ดังนั้นถ้าเราสามารถเพิ่มอัตราการอ่านให้เร็วขึ้นมากเท่าไหร่ เราก็จะยิ่งได้เปรียบมากขึ้นเท่านั้น

บทความนี้จึงขอเอาใจเพื่อนๆ ที่มีปัญหาดังกล่าว และเสนอเทคนิคการอ่านเร็วเพื่อประหยัดเวลา และทำให้ได้คะแนนดีขึ้นในการสอบ อย่ารอช้า เราไปอ่านเทคนิคกันเลยดีกว่า


กลวิธีทั่วไปในการเพิ่มอัตราเร็วในการอ่าน
  • จำไว้ว่า การอ่านเป็นหน่วยความคิด ในการอ่านแต่ละครั้งต้องอ่านให้ได้อย่างน้อย 1 ใจความเพราะจะช่วยให้สามารถรู้ความหมายของข้อความต่างๆ ได้เร็วขึ้น
  • อ่านในใจ การอ่านในใจดีกว่าการอ่านโดยขยับริมฝีปากและสั่นกล่องเสียงซึ่งทำให้อ่านได้ช้าลง
  • วาดภาพตาม สร้างมโนภาพจากตัวหนังสือให้เกิดเป็นรูปร่าง โดยพยายามวาดภาพในสิ่งที่ได้อ่าน จะช่วยให้จดจำได้ง่ายขึ้น หากมองเห็นภาพได้เร็วเท่าไรก็จะอ่านได้เร็วมากขึ้น
  • อย่าอ่านกลับไปกลับมา อย่าอ่านข้อความในแต่ละประโยคกลับไปกลับมา เมื่ออ่านข้อความในย่อหน้าจบแล้วแต่ยังไม่เข้าใจจะกลับไปอ่านตั้งแต่ต้นอีก ได้
  • กวาดสายตาโดยทั่ว ควรจับสายตาไว้เหนือแนวตัวหนังสือหรือข้อความที่อ่านเล็กน้อยโดยอ่านแบบกวาดสายตาจับข้อความเป็นกลุ่มๆ
  • อ่านจากบนลงล่าง โดยการฝึกช่วงกว้างของสายตาให้กว้างที่สุด ฝึกอ่านโดยการขีดเส้นตรงจากบนลงมาล่างให้อยู่กึ่งกลางหน้าหรือข้อความนั้น แล้วใช้สายตาจับที่เส้นกึ่งกลาง โดยเลื่อนสายตาลงมาทีละบรรทัดจนจบข้อความที่ต้องการ
  • อ่านอย่างรวดเร็ว 1 รอบ เมื่อทราบเรื่องราวและตำแหน่งของข้อความอย่างคร่าวๆ แล้ว หากจะตอบคำถามค่อยย้อนกลับไปอ่าน
  • อย่าขีดเขียน ขณะอ่านไม่ควรขีดเส้นใต้ข้อความต่างๆ เพราะการขีดเส้นใต้ข้อความสำคัญเหมาะกับการทบทวน แต่ไม่เหมาะในการทำข้อสอบเพราะแทนที่จะเป็นผลดี กลับทำให้อ่านช้าลง
  • อ่านประโยคแรกและหลังเสมอ การอ่านในหนึ่งย่อหน้า ทุกครั้งจะต้องอ่านประโยคแรกและประโยคสุดท้ายของย่อหน้าก่อนเสมอ
  • สมาธิต้องมาก่อน การอ่านควรอ่านอย่างมีสมาธิ ฝึกฝนสมาธิให้แน่วแน่ และพยายามเข้าใจให้ได้ทันทีเมื่อเริ่มอ่าน

รู้อย่างนี้แล้ว สอบคราวหน้าลองเอาเทคนิคนี้ไปใช้ดูนะ ดูซิว่าจะทำข้อสอบได้ดีขึ้นรึเปล่า